อาชีวอนามัยและความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน 

อาชีวอนามัยและความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน

ความสำคัญ

          การดำเนินกิจกรรมของท่าอากาศยานตั้งแต่การก่อสร้างไปจนถึงการปฏิบัติการของท่าอากาศยานล้วนต้องอาศัยพนักงาน และพันธมิตรทางธุรกิจ เช่น ผู้รับเหมา และคู่ค้า ดังนั้นการบริหารจัดการอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดีจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อทรัพยากรบุคคลอันมีค่าขององค์กรเหล่านี้ หากปราศจากการดูแลด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานที่ดีแล้ว อาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุที่นำไปสู่การบาดเจ็บและสูญเสียบุคลากร ทั้งพนักงานและผู้รับเหมา นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบทางอ้อมต่อการให้บริการลูกค้า เกิดผลกระทบต่อชุมชน รวมถึงการละเมิดข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแลต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนเกี่ยวกับสิทธิในการมีชีวิตและความปลอดภัยอีกด้ว

          สำหรับ ทอท. การละเลยหรือขาดการบริหารจัดการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย อาจนำมาซึ่งผลกระทบเชิงลบต่อประสิทธิภาพการดำเนินงาน เช่น การหยุดชะงักของกระบวนการก่อสร้างหรือปฏิบัติการท่าอากาศยาน อันเกิดจากการสูญเสียบุคลากรสำคัญ นอกจากนี้ยังอาจนำไปสู่การสูญเสียความน่าเชื่อถือในสายตาของลูกค้าและผู้ใช้บริการ เกิดผลกระทบต่อชุมชนโดยรอบ และการดำเนินงานที่ไม่สอดคล้องกับข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแล ซึ่งจะส่งผลต่อชื่อเสียง และความรับผิดชอบทางกฎหมายขององค์กรในระยะยาว ดังนั้น การบริหารจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในที่ทำงานจึงถือเป็นการดำเนินงานที่ต้องได้รับการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ มีมาตรฐานเพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับองค์กรและความเชื่อมั่นของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม

นโยบาย

นโยบายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน

          ทอท.มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจเพื่อเป็นผู้ดำเนินการและจัดการท่าอากาศยานที่ดีระดับโลก โดยให้บริการที่เหนือมาตรฐาน สำนึกในความรับผิดชอบต่อสังคมสิ่งแวดล้อมและชุมชน และมีความห่วงในในการคุ้มครองสุขภาพ ความปลอดภัย และสภาพแวดล้อมในที่ทำงานของพนักงานและลูกจ้างทุกคน

          โดยมุ่งเน้นการป้องกันอุบัติเหตุและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับพนักงานและผู้มีส่วนได้เสียในทุกระดับ ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อสุขภาพและความปลอดภัยของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งพนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับเหมา บุคคลทั่วไป รวมถึงผู้ที่เข้ามาปฏิบัติงานในพื้นที่ ทอท. พร้อมทั้งเป็นการสร้างมาตรฐานการทำงานที่ยั่งยืนและน่าเชื่อถือ ทั้งนี้ ทอท. จะดำเนินการตามแนวทางดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานและองค์กร โดยครอบคลุมหลักปฏิบัติ ดังนี้

นโยบายความปลอดภัยของ ทอท. (AOT Safety Policy)

          ทอท. มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้มาใช้บริการและพนักงานมั่นใจว่าการดำเนินงานด้านการบินของ ทอท.มีประสิทธิภาพด้านความปลอดภัย เป็นไปตามยุทธศาสตร์และค่านิยมของ ทอท. ภายใต้แนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงมาตรฐานสากลด้านความปลอดภัย (Compliance With Relevant OHS International Standards) และ แนวปฏิบัติที่เป็นเลิศในอุตสาหกรรมการบิน เพื่อเสริมสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้

          นอกจากนี้ ทอท. ยังได้กำหนดคู่มือระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย รวมถึงข้อบังคับและคู่มือว่าด้วยความปลอดภัยในการทำงานสำหรับผู้รับเหมา เพื่อเป็นแนวทางการปฏิบัติให้กับพนักงานและลูกจ้าง ตลอดจนผู้รับเหมาของ ทอท. ทุกคน ซึ่งครอบคลุมทุกท่าอากาศยานและสำนักงานใหญ่

แนวทางจัดการ

หน้าที่ความรับผิดชอบ
ทอท. กำหนดให้ 6 ท่าอากาศยานและสำนักงานใหญ่มีผู้รับผิดชอบด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ดังนี้

          คณะกรรมการความปลอดภัยในการทำงาน (คปอ.) ของ ทอท. ทําหน้าที่ 11 ประการตามกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ.2549 โครงสร้าง คปอ. ประกอบด้วย ประธานคณะกรรมการความปลอดภัย (นายจ้างแต่งตั้ง) เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทํางานระดับวิชาชีพ (จป.วิชาชีพ) ทําหน้าที่เป็นกรรมการและเลขานุการกรรมการผู้แทน นายจ้างระดับบังคับบัญชา (นายจ้างแต่งตั้ง) และกรรมการผู้แทนลูกจ้างทุกระดับ (มาจากการเลือกตั้ง) โดยสองกลุ่มหลังมีจํานวนที่เท่ากัน ทั้งนี้ คปอ. จัดประชุมอย่างน้อยเดือนละครั้งเพื่อรับทราบผลการดําเนินงานและชี้แนะมาตรการด้านอาชีวอนามัยต่าง ๆ เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการบริหารจัดการอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ทอท. แต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยของ ทอท. (Board Oversight of Health and Safety) เพิ่มเติม ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการกำหนด/ทบทวนยุทธศาสตร์และแผนงานด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย รวมถึงการกำกับดูแลและติดตามการดำเนินงานให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์และแผนงานที่กำหนด

แผนยุทธศาสตร์ระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย

          ทอท. มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาอาชีวอนามัยและความปลอดภัยที่ดีอย่างต่อเนื่อง (Commitment to Continuous Improvement) จึงได้กำหนดแผนยุทธศาสตร์ด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยฉบับใหม่ คือ
“บริบทองค์กร และแผนยุทธศาสตร์ปีงบประมาณ 2567 – 2570 ระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย” เพื่อการยกระดับอาชีวอนามัยและความปลอดภัยและการลดกรณีอุบัติเหตุภายในปี 2570 ที่มีความสอดคล้องกับแผนวิสาหกิจของ ทอท. ปีงบประมาณ 2566 – 2570 ฉบับทบทวน (ประจำปีงบประมาณ 2567) และบริบทของ ทอท. ในปัจจุบันตลอดจนแนวโน้มในอนาคตของธุรกิจบริหารท่าอากาศยาน โดยมีวิสัยทัศน์ในการมีระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยที่เป็นเลิศ เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของ ทอท. ในการเป็นผู้ดำเนินการและจัดการท่าอากาศยานที่ดีระดับโลก การมุ่งเน้นคุณภาพการให้บริการโดยคำนึงถึงความปลอดภัยและการสร้างรายได้อย่างสมดุล โดยมี 5 ยุทธศาสตร์และโครงการหลัก ดังนี้

ยุทธศาสตร์ โครงการ
ยุทธศาสตร์ที่ 1 : การพัฒนาผู้นำและวัฒนธรรม (Leadership & Culture)
  • การศึกษาข้อมูลพื้นฐานด้านวัฒนธรรม และพัฒนาผู้นำด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
  • การปรับปรุงสภาพความปลอดภัยหน้างานตามหลักการ 5ส อย่างยั่งยืน
  • การส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมและการปรับปรุง ด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
ยุทธศาสตร์ที่ 2 : การพัฒนาความสามารถ และการจัดการความรู้ (Competency & Knowledge Management)
  • การปรับปรุงระบบพัฒนาความสามารถของผู้ปฏิบัติงาน
  • การพัฒนากระบวนการจัดการความรู้ด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
ยุทธศาสตร์ที่ 3 : การพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินการ (Operation Efficiency)
  • การจัดทำฐานข้อมูลและระบบการจัดการ ความสอดคล้องของกฎหมาย
  • การจัดทำระบบฐานข้อมูลการจัดการการเปลี่ยนแปลง ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย
  • การจัดทำระบบการจัดการข้อมูลสิ่งไม่สอดคล้อง ตามข้อกำหนด
ยุทธศาสตร์ที่ 4 : การจัดการผู้รับเหมาช่วง และงานสัญญาจ้าง (Outsource & Contractor Control)
  • การพัฒนามาตรฐานการคัดเลือกและเกณฑ์ การประเมินผลผู้รับเหมาและงานสัญญาจ้าง
  • การจัดทำระบบควบคุมผู้รับเหมา ที่มีความเสี่ยง ด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยแบบบูรณาการ
ยุทธศาสตร์ที่ 5 : การจัดการข้อมูลความเสี่ยง (Risk Monitoring Data)
  • การจัดทำฐานข้อมูลอุบัติการณ์และสิ่งที่ต่ำกว่ามาตรฐาน
  • การปรับปรุงระบบแสดงผลและการติดตามตัวชี้วัดข้อมูลความเสี่ยงเชิงรุก

การกำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัด (KPI) ด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน

          ทอท. กำหนดตัวชี้วัดความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และมีการทบทวนเป็นประจำทุกปี ทั้งนี้เพื่อเป็นกรอบในการดำเนินงานด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยให้สอดคล้องกับกฎหมายและมาตรฐาน ISO 45001:2018 และการบรรลุเป้าหมายการเกิดอุบัติเหตุในที่ทำงานเป็นศูนย์ (Zero Accident) ดังนี้

ตัวชี้วัด เป้าหมายรายปี
ผู้เสียชีวิต 0 ราย
อัตราความถี่ของการบาดเจ็บจากการทำงานจนถึงขั้นหยุดงาน (Lost Time Injury Frequency Rate : LTIFR) 0
อัตราความรุนแรงของการบาดเจ็บจากการทำงานจนถึงขั้นหยุดงาน (Lost Time Injury Severity Rate : ISR) 0
จำนวนผู้ป่วยจากการทำงาน 0
การดำเนินงานเป็นไปตามมาตรฐาน
  • สุขศาสตร์อุสาหกรรม
  • ISO 45001:2018
  • แผนงานที่กำหนด
100%
เป็นไปตามมาตรฐานและแผนงาน
ได้รับรางวัลความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานระดับประเทศ ได้รางวัล
รักษาสถานภาพการรับรอง ISO 45001:2018 100%
Zero Accident บนทางวิ่ง 0

แนวทางในการดำเนินงานด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย (OHS Procedure)

          ทอท. ได้กำหนด Standard Operation Procedure เป็นแนวทางในการดำเนินงานด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน (พนักงานและคู่ค้า ทอท. ) อย่างมีระบบ และกำหนดให้ผู้ปฏิบัติงานจัดการประชุมกับฝ่ายบุคคลและจัดการประชุมกับคณะกรรมการเพื่อรายงานสถานการณ์ดำเนินงานอย่างสม่ำเสมอ

Standard Operation Procedure ของ ทอท. ครอบคลุมหัวข้อต่าง ๆ ดังนี้

  1. การบ่งชี้อันตราย และประเมินความเสี่ยง
  2. การจัดการอันตรายจากปัจจัยเชิงจิตวิทยาและปัจจัยทางสังคมในการทำงาน
  3. การจัดการความสอดคล้องของกฎหมายและข้อกำหนดด้านอาชีวอนามัย และความปลอดภัย
  4. การกำหนดวัตถุประสงค์ และแผนบริหารจัดการด้านอาชีวอนามัย และความปลอดภัย
  5. การกำหนดความสามารถ การฝึกอบรม และความตระหนักฃ
  6. การสื่อสาร การมีส่วนร่วม และการให้คำปรึกษา
  7. การควบคุมเอกสาร และบันทึก
  8. การควบคุมการปฏิบัติ
  9. การจัดการความเปลี่ยนแปลง
  10. การควบคุมการจัดซื้อจัดจ้าง และผู้รับจ้าง
  11. การเตรียมความพร้อม และตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉิน
  12. การตรวจสอบการปฏิบัติด้านความปลอดภัย
  13. การติดตาม ตรวจสอบ และวัดผลการปฏิบัติด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
  14. การตรวจประเมินระบบการจัดการ
  15. การทบทวนระบบการจัดการโดยฝ่ายบริหาร
  16. การสอบสวนอุบัติเหตุ และอุบัติการณ์ การแก้ไข และป้องกัน

การบ่งชี้อันตรายและประเมินความเสี่ยงด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย

           ทอท. มีแนวทางการประเมินและจัดการความเสี่ยงด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยอย่างเป็นระบบ โดยการจัดลำดับความสำคัญจากระดับความเสี่ยง และกำหนดแผนปฏิบัติการแก้ไขที่มีเป้าหมายชัดเจน ซึ่งสามารถวัดผลได้ในเชิงปริมาณ พร้อมทั้งบูรณาการการดำเนินงานเข้ากับระบบความปลอดภัยขององค์กรเพื่อสร้างความยั่งยืนในระยะยาว

การชี้บ่งอันตรายและการประเมินความเสี่ยง (OHS Risk & Hazard Assessments)

           ทอท. ดำเนินการบริหารจัดการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยตามมาตรฐาน มอก.18001:2554 โดยมี กระบวนการชี้บ่งอันตรายและการประเมินความเสี่ยงในกิจกรรมและสภาพแวดล้อมการทำงาน ที่ครอบคลุมทั้งพนักงานของ ทอท. และผู้รับเหมาหรือคู่ค้า (Supplier/Vendor) ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ของบริษัท พร้อมดำเนินการทบทวนเป็นประจำอย่างน้อยปีละครั้ง โดยมีผู้รับผิดชอบของแต่ละส่วนงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยระดับวิชาชีพ พร้อมรายงานผลต่อคณะกรรมการบริหารระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย คปอ. และผู้บริหารระดับสูง ผลลัพธ์จากการชี้บ่งอันตรายและประเมินความเสี่ยงถูกใช้ในการกำหนดมาตรการจัดการตามลำดับขั้นในการควบคุมความเสี่ยง (Hierarchy of Controls) เพื่อให้เกิดแนวทางป้องกันที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ในกรณีที่ผู้ปฏิบัติงานพบเห็นสภาพแวดล้อมการทำงานที่เสี่ยงต่อการเกิดอันตราย ผู้ปฏิบัติงานทุกระดับสามารถมีส่วนร่วมในการรายงานความเสี่ยงและข้อกังวลที่เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อต่อ คปอ. เพื่อดําเนินการประเมินและติดตามแก้ไข โดยถือว่าการรายงานเกี่ยวกับอุบัติการณ์อันตรายความเสี่ยงและโอกาสเป็นการรายงานเพื่อก่อให้เกิดการปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาระบบการบริหารจัดการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย

การกำหนดลำดับความสำคัญและการบูรณาการแผนปฏิบัติการที่มีเป้าหมายเชิงปริมาณเพื่อแก้ไขความเสี่ยง

          ในขั้นตอนการวิเคราะห์ระดับความเสี่ยง (Risk Assessment) ทอท. ได้จัดทำตารางแสดงการประเมินความเสี่ยง โดยพิจารณาจากแหล่งที่มาของอันตราย (Source of Hazard) ลักษณะอันตราย (Hazard) และผลกระทบ (Impact) ที่อาจเกิดขึ้น จากนั้นจึงกำหนดระดับความรุนแรงและโอกาส โดยใช้ระบบการประเมินระดับความรุนแรง (Severity) และระดับโอกาส (Likelihood) เพื่อคำนวณ “ระดับความเสี่ยง” (Risk Level) เช่น ระดับ L (Low) M (Medium) H (High) ซึ่งช่วยกำหนดลำดับความสำคัญของการดำเนินการแก้ไข โดยเมื่อได้ผลประเมินความเสี่ยง ในกรณีที่ความเสี่ยงอยู่ในระดับปานกลาง หรือสูง จะต้องมีการจัดทำแผนปฏิบัติการเฉพาะกิจที่กำหนดมาตรการเพื่อแก้ไข หรือลดความเสี่ยง เช่น การเพิ่มมาตรการป้องกัน การใช้เครื่องมือที่เหมาะสม หรือการจัดการสิ่งแวดล้อมในการทำงาน เป็นต้น

การสอบสวนอุบัติการณ์ (Investigation of Incidents)

กรณีที่มีอุบัติการณ์เกิดขึ้น ทอท. มีกระบวนการในการสอบสวนอุบัติการณ์ ดังนี้

การตรวจประเมินสภาพแวดล้อมการทํางาน

ทอท. กําหนดการตรวจประเมินสภาพแวดล้อม ในการทํางานของพนักงานและลูกจ้างเป็นประจํา ซึ่งรับผิดชอบโดยหน่วยงานด้านอาชีวอนามัยและ ความปลอดภัย และหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมของแต่ละ ท่าอากาศยานในการตรวจติดตามสภาพแวดล้อม ในการทํางานให้มีความสอดคล้องตามกฎหมาย และมาตรฐานด้านอาชีวอนามัย ความปลอดภัย และสภาพแวดล้อมการทํางานที่เกี่ยวข้อง ครอบคลุมคุณภาพสิ่งแวดล้อมภายในอาคาร เช่น อุณหภูมิ ความชื้น แสงสว่าง เสียง ฝุ่นละออง และเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราในอากาศ เป็นต้น

การบริการทางการแพทย์

ทอท. มีคลินิกสสำนักแพทย์และห้องปฐมพยาบาล (First Aid) ประจําท่าอากาศยาน ทั้ง 6 แห่ง รวมถึงสํานักงานใหญ่ เพื่อตรวจรักษาเบื้องต้นให้แก่พนักงานและผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ของ ทอท. กรณีเจ็บป่วยหรือได้รับอุบัติเหตุ ระหว่างปฏิบัติงาน นอกจากนี้ ทอท. กําหนดให้มีการตรวจสุขภาพพนักงานประจําปีและมีสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลให้แก่พนักงาน เพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานของ ทอท. ทุกคน มีสุขภาพที่ดีและได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ส่งเสริมคุณภาพชีวิตและความพร้อมในการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง

ความปลอดภัยของผู้รับเหมาและการคัดเลือกผู้รับเหมา

           ฝ่ายความปลอดภัยในการทํางานและอาชีวอนามัยของ ทอท. จัดทําและเผยแพร่ข้อบังคับและคู่มือว่าด้วยความปลอดภัยในการทํางานสําหรับผู้รับเหมา เพื่อใช้เป็น แนวทางในการดำเนินงานด้านความปลอดภัยในการทำงาน ที่ถูกต้องและสอดคล้องกับกฎหมายและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งยังเป็นการควบคุมความเสี่ยงในการปฏิบัติงานของผู้รับเหมาที่เข้ามาทำงานในพื้นที่ของ ทอท. เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างปลอดภัย ลดอุบัติเหตุ และป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงเป็นการผลักดันผลลัพธ์ด้านความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานทุกคนรวมถึงผู้รับเหมาภายนอก

          ทั้งนี้ ทอท. กําหนดระเบียบการควบคุมการจัดซื้อจัดจ้าง (Standard Operation Procedure) เพื่อควบคุมการจัดซื้อจัดจ้างและผู้รับจ้าง โดยกำหนดเป็นหลักเกณฑ์แนวทางสำหรับส่วนงานที่จะมีการว่าจ้างผู้รับจ้าง ซึ่งมีข้อ
ที่ต้องคำนึงถึงและต้องมีดำเนินการในด้านอาชีวอนามัยเมื่อมีการว่าจ้างจาก ทอท. ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัยและมาตรฐาน ISO 45001:2018 รวมถึงการกำหนดเงื่อนไขการปฏิบัติงานของผู้รับเหมาที่สอดคล้องตามข้อกําหนดด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย และแนวทางการปฏิบัติอย่างยั่งยืนของคู่ค้าไว้อย่างชัดเจนในข้อกําหนดรายละเอียดงานจ้าง (Term of Reference: TOR) นอกจากนี้ ทอท. ดำเนินการสื่อสารกับผู้ปฏิบัติงานถึงข้อควรปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยทุกครั้งก่อนเริ่มดำเนินงาน เพื่อให้มั่นใจว่าผู้รับเหมาปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด ลดความเสี่ยงในการปฏิบัติงาน และเสริมสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยและมีมาตรฐาน

          ปัจจุบัน ทอท. กําหนดให้ผู้รับเหมาจําเป็นต้องรายงานสถิติและผลการดําเนินงานด้านความปลอดภัยเป็นประจําทุกเดือนผ่านระบบสารสนเทศในการจัดการข้อมูลด้านความปลอดภัยสําหรับผู้รับเหมา นอกจากนี้ ทอท. มีการตรวจใบอนุญาต (Work Permit) ของผู้รับเหมาก่อนการเริ่มปฏิบัติงานในสถานที่ของ ทอท.

การดูแลสุขภาพของพนักงาน

          จากการรวบรวมผลการประเมินความเสี่ยง ทอท. ดำเนินโครงการ/กิจกรรมเพื่อดูแลสุขภาวะและความปลอดภัยของพนักงาน รวมถึงการป้องกันโรคระบาดอย่างต่อเนื่อง เช่น

  • การตรวจสุขภาพประจำปี
  • การจัดงานแข่งขันกีฬาภายใน ทอท.
  • การอบรมสำหรับผู้ปฏิบัติงานที่มีความเสี่ยงเฉพาะสูง
  • การเตรียมพร้อมสำหรับเหตุฉุกเฉิน 
  • กิจกรรมการพูดคุยเรื่องความปลอดภัยในส่วนงาน (Safety talk)
  • โครงการการยศาสตร์ (Ergonomics)

การตรวจสอบด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน (Independent External Verification & Internal Inspections)

ทอท. ให้ความสําคัญกับสภาพแวดล้อมการทํางานที่ปลอดภัย ถูกหลักอาชีวอนามัย ปราศจากอันตรายและอุบัติเหตุในทั้ง 6 ท่าอากาศยานและสํานักงานใหญ่ โดยถือเป็นหลักพื้นฐานสําคัญของการดําเนินงานท่าอากาศยานซึ่งบุคลากรทุกคน ที่ทํางานภายในพื้นที่รับผิดชอบของ ทอท. ต้องปฏิบัติ ตาม ปัจจุบันระบบการบริหารจัดการด้านอาชีวอนามัย และความปลอดภัยของ ทอท. ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 45001:2018 เรียบร้อยแล้วทั้งในส่วนของสํานักงานใหญ่ และท่าอากาศยาน ทั้ง 6 แห่ง ซึ่งระบบการจัดการฯ ดังกล่าวจะทําให้การบริหารจัดการงานด้านอาชีวอนามัย และความปลอดภัยของ ทอท. มีความปลอดภัย และมีการบริหารจัดการที่ได้มาตรฐานระดับสากล

          นอกจากนี้ ทอท. ดำเนินการตรวจสอบภายในด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน (Internal Audit) โดยการค้นหาการดำเนินงานที่ไม่สอดคล้องกับมาตรฐาน ISO 45001:2018 และวางแผนแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยจะมีการประชุมเพื่อติดตามการดำเนินงานอย่างสม่ำเสมอตลอดปีงบประมาณ (Evaluation of Progress Against Targets)

ผลการดำเนินงาน

โครงการ front line 2

          มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรม จำนวน 560 คน จากสำนักงานใหญ่ 6 ท่าอากาศยาน และสายการบินมีทักษะ ความรู้ ความเข้าใจ ในการช่วยฟื้นชีพขั้นพื้นฐานและการใช้เครื่องฟื้นคืนคลื่นไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ (Automated External Defibrillator: AED) ได้อย่างถูกวิธี มีประสิทธิภาพและความปลอดภัย เพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตของผู้ที่มีภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน คำนึงถึงความปลอดภัยต่อผู้โดยสาร ผู้มาใช้บริการท่าอากาศยาน พนักงาน ทอท. และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อองค์กร นอกจากนี้ ฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคล และ ฝ่ายการแพทย์ยังได้จัดอบรมให้กับพนักงาน ทอท. ที่ปฏิบัติงานสัมผัสกับผู้รับบริการ ณ สำนักงานใหญ่ และทุกท่าอากาศยานของ ทอท. อีกด้วย

โครงการดูแลสุขภาวะและความปลอดภัยของพนักงาน 

          ทอท. จัดทำสื่อวีดิทัศน์ส่งเสริมสุขภาพอนามัยของพนักงาน และลูกจ้าง ทอท. ทุกคน เกี่ยวกับโรคออฟฟิศซินโดรม จำนวนทั้งสิ้น 4 ตอน เพื่อสร้างความตระหนัก ส่งเสริม ให้ความรู้ และใช้เป็นแนวทางการปฏิบัติสำหรับผู้ปฏิบัติงาน ณ สำนักงานใหญ่และท่าอากาศยาน ทั้ง 6 แห่งของ ทอท. โดยในปี 2567 ได้มีการเพิ่มช่องทางการสื่อสารให้ครอบคลุมพนักงานของ ทอท. มากขึ้นผ่านการประชาสัมพันธ์บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ (Desktop) ​

ตอนที่ 1 การบริหารร่างกายเพื่อป้องกัน และบรรเทาอาการของโรคออฟฟิศซินโดรม

ตอนที่ 2 การสร้างความตระหนัก และให้ความรู้แก่ผู้ปฏิบัติงานเพื่อหยุดหรือหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง ต่อการเป็นโรคออฟฟิศซินโดรม

ตอนที่ 3 การเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และอวัยวะต่างๆ ที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคออฟฟิศซินโดรม

ตอนที่ 4 การแนะนำวิธีการจัดพื้นที่ปฏิบัติงานให้ถูกต้องตามหลักการยศาสตร์

มาตรการเพื่อดูแลสุขภาวะและความปลอดภัยของพนักงานในสถานการณ์โรคระบาด

          เนื่องด้วยเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีการระบาดเป็นวงกว้างในหลายประเทศ ทอท. ซึ่งเป็นธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานของประเทศในการรองรับผู้โดยสารทั้งในและต่างประเทศสำหรับการเดินทาง จึงได้รับผลกระทบโดยตรงจากการสถานการณ์โรคระบาด ดังนั้น ทอท. จึงได้จัดทำมาตรการและแผนสำหรับการบริหารสภาวะวิกฤต (Incident Management Plan) กรณีโรคอุบัติใหม่หรือโรคระบาดร้ายแรง เพื่อเป็นกรอบและขั้นตอนสำหรับการดำเนินธุรกิจท่าอากาศยานโดยครอบคลุมทั้งพนักงานและผู้มีส่วนได้เสียของ ทอท. ทั้งหมด

การส่งเสริมวัฒนธรรมความปลอดภัยด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย

          ทอท. ส่งเสริมความปลอดภัยและสนับสนุนวัฒนธรรมทางด้านความปลอดภัยในองค์กร โดยจัดให้มีการฝึกอบรมและโครงการรณรงค์ เช่น กิจกรรมการตรวจความปลอดภัย ที่จะส่งเสริมให้มีการตรวจสอบพื้นที่ปฏิบัติงานของแต่ละส่วนงานเป็นประจำทุกเดือน กิจกรรมการพูดคุยเรื่องความปลอดภัยในส่วนงาน (Safety talk) ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จะส่งเสริมให้พนักงานในส่วนงานได้นำประเด็นด้านความปลอดภัยมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน โครงการ Safety Day ที่สร้างความตระหนักและเปิดโอกาสให้พนักงานมีส่วนร่วมผ่านซุ้มกิจกรรมให้ความรู้ด้านความปลอดภัย โดยมีการสื่อสารข้อมูลด้านความปลอดภัย พร้อมมอบของรางวัลให้แก่พนักงานและบุคคลที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรม

          ทั้งนี้ ทอท. มุ่งให้ความรู้ด้านความปลอดภัยแก่พนักงานใหม่และพนักงานปัจจุบันด้านมาตรฐานความปลอดภัยเบื้องต้นตามที่กฎหมายและองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) กําหนด เช่น ความปลอดภัยพื้นฐานในท่าอากาศยานและแผนฉุกเฉิน การซ้อมหนีไฟ และการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ควบคุมงานเพื่อกำกับดูแลผู้รับเหมา

          นอกจากนี้การส่งเสริมวัฒนธรรมความปลอดภัยสำหรับการปฏิบัติงานภายในท่าอากาศยาน กลุ่มคู่ค้าของ ทอท.ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานด้านความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัย ต้องผ่านการอบรมหรือหลักสูตรด้านความปลอดภัยที่ดำเนินการโดย ทอท. ให้กับคู่ค้า

โครงการฝึกซ้อมดับเพลิงและการฝึกซ้อมอพยพหนีไฟ

          ทอท. ได้ดำเนินการฝึกซ้อมดับเพลิงและการฝึกซ้อมอพยพหนีไฟ ตามแผนป้องกันและระงับอัคคีภัย นำโดย ฝ่ายความปลอดภัยในการทำงานและอาชีวอนามัย (ฝปอ.) เพื่อเป็นการป้องกันการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินจากอัคคีภัย รวมไปถึงเป็นการสร้างความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยต่อพนักงานเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ ลดความสูญเสียและลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นเนื่องจากอัคคีภัยและยังเป็นการปฏิบัติเพื่อให้สอดคล้องตามกฎหมาย อีกทั้งยังจัดให้มีการฝึกอบรมดับเพลิงขั้นต้นให้กับพนักงานและจัดให้มีการซ้อมอพยพหนีไฟเป็นประจำทุกปีตามกฎหมายกำหนด

สถิติการประสบอันตรายจากการทำงานของพนักงานและลูกจ้าง

          ทอท. จัดทำและรวบรวมสถิติด้านความปลอดภัยในการทำงาน โดยใช้อัตราความถี่ในการเกิดอุบัติเหตุจนถึงขั้นหยุดงาน (Lost Time Injury Frequency Rate: LTIFR) และอัตราความรุนแรงในการเกิดอุบัติเหตุ (Lost Time Injury Severity Rate: LTISR) ตามแนวทางที่กำหนดโดยสถาบันมาตรฐานแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (ANSI) ซึ่งกำหนดแนวทางการคำนวณสถิติด้านความปลอดภัยในการทำงานไว้ครอบคลุมทั้งพนักงานของ ทอท. และผู้รับเหมาที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้เพื่อการวิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหาและนำข้อมูลไปใช้ในการกำหนดแผนงานลดความเสี่ยงและมาตรการป้องกัน โดยสถิติต่างๆ ที่ได้มีการรวบรวมจะถูกตรวจสอบโดย Certification Body ตามมาตรฐาน ISO 45001: 2018 ก่อนให้การรับรองมาตรฐานต่อไป

  • อัตราความถี่ในการเกิดอุบัติเหตุจนถึงขั้นหยุดงาน (LTIFR) = (จำนวนคนที่บาดเจ็บจนถึงขั้นหยุดงาน X 1,000,000) / จำนวนชั่วโมงการทำงานทั้งหมด
  • อัตราความรุนแรงในการเกิดอุบัติเหตุ (LTISR) = (จำนวนวันที่หยุดงานจากอุบัติเหตุ X 1,000,000) / จำนวนชั่วโมงการทำงานทั้งหมด 

การประเมินผลการจัดการ

          ทอท. จัดให้มีกระบวนการในประเมินผลการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน ผ่านการตรวจประเมินภายใน (Internal Audit) โดยฝ่ายความปลอดภัยในการทํางานและอาชีวอนามัย สายงานมาตรฐานอากาศยานและการบิน และคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน ส่วนการตรวจประเมินภายนอก (External Audit) ตามมาตรฐาน ISO 45001: 2018 โดยหน่วยงานอิสระ ทั้งนี้ ทอท. รายงานสถิติความปลอดภัยและผลการตรวจรับรองมาตรฐานการจัดการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยเป็นประจําให้แก่ผู้บริหารระดับสูงเพื่อทบทวนและกําหนดมาตรการสําหรับพัฒนาการดําเนินงานด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทํางานต่อไป รวมถึงได้เปิดเผยผลการดําเนินงานต่อสาธารณะในรายงานความยั่งยืนเป็นประจําทุกปี